เมื่อพูดถึงโรคเบาหวาน การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพไม่เพียงแต่จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องการวินิจฉัยโรคให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังนั้นรายการอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน จึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และการควบคุมอาหาร จะสามารถบรรเทาอาการของโรคได้ ทั้งนี้อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ไม่ได้เป็นอาหารที่พิเศษ หรือแตกต่างจากอาหารที่คนทั่วไปรับประทาน เพราะยังคงต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และแบ่งอาหารออกเป็นมื้อย่อย 5 มื้อต่อวัน ประกอบด้วบ มื้อหลัก 3 มื้อ และ มื้อว่าง 2 มื้อ
อาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน
ทำไมผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อย 5 มื้อ ต่อ 1 วัน
การรับประทานอาหารมื้อใหญ่ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อร่างกาย เพราะการรับประทานอาหารมากเกินไป อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการลดระดับน้ำตาลในเลือดจากการรับประทานอาหารแต่ละมื้อ แพทย์ได้แนะนำให้แบ่งการรับประทานอาหารออกเป็นมื้อย่อยๆ สัก 5 - 6 มื้อต่อวัน โดยให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานอาหารในปริมาณน้อยๆ แต่รับประทานอาหารให้บ่อยขึ้นนั่นเอง
ดังนั้นการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน วันนี้เรามีเมนูง่ายๆ ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานมานำเสนอ รับรองว่าสูตรนี้ทำง่าย ใครก็ทำได้ แถมยังใช้เวลาไม่นานอีกด้วย
ควบคุมระดับน้ำตาลโดยการเลือกรับประทานอาหาร
เมนูที่ 1 ข้าวต้มปลากะพง
เมนูข้าวต้มปลากะพง เมนูเนื้อปลานุ่มๆ กับน้ำซุปสูตรกลมกล่อม ที่มาพร้อมกับข้าวเม็ดสวยๆ ที่สามารถทำกินเองได้ง่ายๆ ใช้เวลาไม่นาน เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เรามาเตรียมวัตถุดิบกันเลย
ข้าวต้มปลากะพง
วัตถุดิบ:
- ปลากะพงแดงหั่นชิ้น 500 กรัม
- ข้าวสวย (หอมมะลิ) 2 ทัพพี
- เห็ดหอม 4 ดอก
- ข่าหั่นแว่น 1 แง่ง
- รากผักชี 2 ราก
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซุปกระดูกหมู 1 ลิตร
- ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน ต้นหอมซอย กระเทียมเจียว สำหรับโรยหน้า
วิธีทำข้าวต้มปลากะพง:
- ตั้งหม้อบนเตา ใส่น้ำซุปกระดูกหมู ข่าหั่นแว่น และรากผักชีลงไปต้มให้เดือด
- ใส่เนื้อปลากะพง และเห็ดหอมลงไป ขณะใส่เนื้อปลา
- ห้ามคนจนกว่าปลาจะสุกดี เพราะจะทำให้น้ำซุปเกิดกลิ่นคาวได้
- เมื่อเนื้อปลาสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และพริกไทยป่น
- ตักน้ำซุป และเนื้อปลาที่ต้มไว้ ราดลงบนข้าวสวย โรยตกแต่งด้วย ขึ้นฉ่าย ต้นหอม และกระเทียมเจียว เท่านี้ก็พร้อมรับประทาน
เมนูที่ 2 ข้าวผัดกุ้ง
เมนูข้าวผัดกุ้ง เมนูแสนง่าย สามารถหาของในตู้เย็นมาทำกินเองได้ ใช้เวลาไม่นาน เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน วันนี้เราจะมาแจกสูตรอาหาร ข้าวผัดกุ้ง พร้อมเทคนิคผัดข้าวเม็ดร่วนสวย เหมือนไปกินที่ร้าน มาเตรียมวัตถุดิบกันเลย
ข้าวผัดกุ้ง
วัตถุดิบ:
- ข้าวสวย (หอมมะลิ) 400 กรัม
- กุ้งผ่าเส้นหลัง 300 กรัม
- ไข่ 3 ฟอง
- กระเทียม 15 กรัม
- ต้นหอม 20 กรัม
- ซอสปรุงรสฝาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย 1 ช้อนชา
วิธีทำข้าวผัดกุ้ง:
- นำกุ้งมาล้างทำความสะอาด และผ่าเส้นหลังให้เรียบร้อย พักไว้
- ตั้งกระทะเทน้ำมันลงไป พอกระทะเริ่มร้อนใส่กระเทียมสับลงไป ผัดจนกระเทียมออกกลิ่นหอม
- จากนั้นใช้ไฟแรง และใส่กุ้งลงไปผัดให้พอออกสีส้ม แต่ยังไม่ต้องสุกมาก
- ใส่ไข่ไก่ลงไป รอให้ไข่เซตตัว และคนให้เข้ากัน
- ตามด้วยข้าวหอมมะลิ เปิดไฟแรง ผัดจนเข้ากันดี ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรสฝาเขียว พริกไทย
ผัดจนเข้ากันดี ตามด้วยต้นหอมซอย ผัดต่ออีกเล็กน้อย ปิดเตาพร้อมเสิร์ฟ
เมนูที่ 3 เกี๊ยวน้ำ
เมนูเกี๊ยวน้ำ ถือเป็นเมนูทำง่ายๆ รสชาติกลมกล่อม ที่สามารถกินได้ทั้งครอบครัว เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เมนูเกี๊ยวน้ำรสชาติดี หมูเด้งหนึบหนับ สามารถเป็นได้ทั้งเมนูอาหารเช้า หรือจะเป็นมื้อเย็นเบาๆ ในครอบครัวก็ได้เช่นกัน จะมีวิธีทำอย่างไรบ้าง เรามาเตรียมวัตถุดิบกันเลย
เกี๊ยวน้ำ
วัตถุดิบ:
- น้ำซุปคนอร์ 1-2 ก้อน (น้ำ 3-4 ลิตร)
- เม็ดบุบพอแตก 1 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชี, กระเทียมไทย, พริกไทย บุบ (2-3 ราก)
- หัวไชเท้า 2 หัว
- กุ้งขาวสับหยาบ 300 กรัม
- หมูเด้ง 250 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- รากผักชี, ต้นหอมซอย, กระเทียมไทยโขลก 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรสฝาเขียว, น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว, ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- แผ่นเกี๊ยว
วิธีทำเกี๊ยวน้ำ:
- ใส่น้ำลงหม้อ รอจนน้ำเดือด ใส่คนอร์ลงไป จากนั้นใส่หัวไชเท้า กระเทียม รากผักชี พริกไทยบุบ ปรับไฟจากแรงเป็นไฟกลาง ชิมรสชาติน้ำซุป และปรับได้ตามชอบ
- ระหว่างนี้ทำเกี๊ยวรอ นำหมูเด้งและกุ้งสับลงไปในชามผสม ตามด้วยกระเทียม รากผักชี พริกไทยป่น ซอสปรุงรสฝาเขียว ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย น้ำมันงา ไข่ไก่คลุกเคล้าให้เข้ากัน นวดจนเนื้อเหนียวดี ใส่ต้นหอมซอยปิดท้าย นำเข้าแช่ช่องฟรีส 30 นาที และนำมาห่อตามชอบ
- นำเกี๊ยวไปลวกในน้ำร้อนที่ไม่เดือดมาก รอจนเกี๊ยวสุก ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ตักขึ้นมาคลุกเคล้ากับกระเทียม เพื่อไม่ให้ติดกัน แล้วจึงตักใส่ชาม เติมน้ำซุปลงไป โรยด้วยผักชีและกระเทียมเจียว พริกไทยป่น เป็นอันเสร็จ เท่านี้ก็พร้อมรับประทาน
เมนูที่ 4 ไก่ผัดขิง
แจกสูตรไก่ผัดขิงแสนอร่อย เมนูดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะขิงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของอินซูลิน และยังมีสรรพคุณต้านหวัด และอาการภูมิแพ้ มาลองทำเมนูไก่ผัดขิงที่ทำง่ายๆ เรามาเตรียมวัตถุดิบกันเลย
ไก่ผัดขิง
วัตถุดิบ:
- สันในไก่ หรือ อกไก่ 250 กรัม
- ขิงซอย 2-3 ช้อนโต๊ะ (ตามความชอบ)
- หอมใหญ่ (หัว) 1/2 ลูก
- เห็ดหูหนู 100 กรัม
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช (สำหรับผัดเล็กน้อย)
วิธีทำไก่ผัดขิง:
- นำสันในไก่หรืออกไก่มาหั่นเป็นชิ้น
- ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมัน นำกระเทียมสับลงไปผัดให้เหลือง และมีกลิ่นหอม
- ใส่ขิงลงไปผัดตามด้วยไก่ผัดให้สุก ใส่หอมหัวใหญ่ และเห็ดหูหนู
- จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำมันหอย และซีอิ๊วขาว ผัดให้เข้ากัน ตักขึ้นใส่จานเสิร์ฟ พร้อมรับประทานได้เลย
เมนูที่ 5 ต้มจืดมะระ
ต้มหม้อเดียวอร่อยได้ทั้งบ้าน ทำง่ายๆ แถมดีต่อสุขภาพ เพราะมะระมีสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่า สารชาแรนทิน (Charan tin) ที่ช่วยออกฤทธิ์ต้านโรคเบาหวาน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติได้ สรรพคุณดีขนาดนี้ จะมีวิธีทำอย่างไรบ้าง เรามาเตรียมวัตถุดิบกันเลย
ต้มจืดมะระ
วัตถุดิบ:
- มะระ 2 ลูกใหญ่
- กระดูกหมู 500 กรัม
- รากผักชี กระเทียม พริกไทย ตำรวมกัน 2 ช้อนโต๊ะ
- กุ้งแห้งอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
- เห็ดหอม 4-5 ดอก
- เกลือ 1 กำมือ (แช่มะระ)
- เกลือ 1- 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2 ลิตร
วิธีทำต้มจืดมะระ:
- กระดูกหมูนำมาล้างน้ำให้สะอาดดี นำขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วนำไปหมักกับซีอิ๊วขาว และซอสปรุงรสทิ้งไว้ก่อน
- มะระควักไส้ออกแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ นำไปแช่ไว้กับน้ำที่ผสมกับเกลือ
- กระเทียม พริกไทย รากผักชีโขลกไว้หยาบๆ นำไปผัดกับน้ำมันจนหอม ใส่กระดูกหมูที่หมักไว้ลงไปผัก ผัดพอสุก
- จากนั้นเติมน้ำซุปลงไป ปรุงรสเพิ่มด้วยซีอิ๊วขาว และเกลือเล็กน้อย
- ใส่มะระลงไปแล้วต้มด้วยไฟอ่อน อีกประมาณ 1 ชั่วโมง จนกระดูกหมูและมะระเปื่อยได้ที่ ตักขึ้นใส่จานเสิร์ฟ พร้อมรับประทานได้เลย
จากข้อมูลข้างต้น เมนูอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานยังมีอีกหลากหลายเมนู เรานำมาเสนอเพียง 5 เมนูเท่านั้น อย่างไรก็ตามผู้ป่วยเบาหวานควรเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อุดมด้วยสารอาหาร เน้นผักผลไม้ และธัญพืชต่างๆ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน และแคลอรี่สูง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นหลักการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่คนส่วนใหญ่ควรเลือกรับประทานกันอยู่แล้ว เพียงแต่สำหรับคนที่เป็นเบาหวานจะมีการจำกัดปริมาณที่เหมาะสม และอาจต้องรับประทานอย่างเป็นเวลาในทุกวัน
